
ขวา : AFC ไมโครแมนรุ่นแรก ผลิตในปี 1974(ภาพจาก microforever.com ครับ) - เห็นได้ชัดว่ารูปแบบหลักๆมาจากเฮนชินไซบอร์คเกือบร้อยเปอร์เซนต์ หัวสีเงินตัวสีใสและที่สำคัญขยับได้ถึงร่วมยิ่สิบจุด
ในขณะที่ action figure ในขนาดสามนิ้วครึ่งทั่วๆไปเช่น Star War ขยับได้เพียงห้าจุดเท่านั้น. จะแตกต่างไปจากเฮนชินไซบอร์คอยู่บ้างก็ระบบพยุงชีพที่หน้าท้อง
และก็รองเท้าที่มีช่องใต้ฝ่าเท้าเอาไว้ประกอบร่างกับชิ้นส่วนอื่นๆได้
หมายเหตุ : AFC ไมโครแมนรุ่นแรกจริงๆนั้นส่วนเท้าจะเป็นแบบเท้าเปล่า
และถูกนำมารีโปรดักส์ใหม่เมื่อปี 2000 นี่เอง - ในปัจจุบันยังพอหาได้อยู่ครับ

ซ้าย : แอกชั่นฟิกเกอร์ไมโครแมนรุ่นแรกที่ขุดมาจากในกรุของผมครับ เป็นสามตัวทางด้านซ้าย อายุอานามของแต่ละตัวก็เฉียดๆ 30ปี
(จริงๆยังมีอีกสองตัวแต่ยังอยุ่ในห้อง ICU รอฟื้นฟูสภาพก่อนค่อยเอามาอวด) ส่วนตัวทางขวาสุดนั่นเป็นตัว Obewan จาก Starwar
ที่ขนาดใกล้เคียงกับไมโครแมนมาก - เอามาให้ดูเปรียบเทียบขนาดครับ
ข้อเสียหลักๆของไมโครแมนรุ่นแรกนี้คือวัสดุครับ พลาสติกสีใสนี่จะเปราะมากกว่าพลาสติกสีทึบ และยิ่งเป็นของเล่นที่มีขนาดเล็กด้วยแล้ว
ทำให้บริเวณข้อต่อส่วนหัวไหล่, ข้อศอก และข้อเท้าจะหักได้ง่ายมาก - คาดว่า Takara ก็รู้ในจุดนี้จึงได้เปลี่ยนมาใชัโลหะผสม หรือพลาสติกทึบสำหรับไมโครแมนชุดหลังๆ
ข้อเสียอีกจุดหนึ่งก็คือการยึดชิ้นส่วนขาไว้กับลำตัวโดยใช้ยางยืด (อยู่ในลำตัว) ..อากาศร้อนอย่างบ้านเราทำให้ยางพวกนี้เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
แต่ถ้ายางที่ให้มาขาดไปแล้วก็ไม่ต้องตกใจครับ สามารถใช้ยางรัดผมทบกันสักสองเส้นมาใส่แทนก็ได้
คราวนี้มาดูของในกรุของผมกันครับ

ซ้าย : ตัวนี้สภาพเดิมๆ มีเปลี่ยนยางในลำตัวไปอย่างเดียว
ขวา : ตัวนี้สมบุกสมบันหน่อย ข้อเท้าหักไปทั้งสองข้าง แถมมือหายไปข้างนึงอีกตะหาก - เลยจับโมดิฟายด์โดนใช้ชิ้นส่วนของเล่นที่แถมมากับขนมมาใส่แทน (โมดิฟายด์ไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ..ได้แค่นี้ก็ว่าแจ๋วแล้วนะ)
ซ้าย : ไมโครแมนแจ็คในร่างไซบอร์ค - ชื่อรุ่นจริงๆของตัวนี้คือซุปเปอร์สตีลไมโครแมน เนื่องวัสดุที่ใช้เป็นโลหะผสม - ผลิตครั้งแรกในปี 1975 ที่เห็นอยู่นี้ตัวนี้เป็นของรีโปรดักส์ทำเมื่อปี 2000 นี่เอง ที่แตกต่างจากเดิมเห็นจะเป็นที่มือ ของดั้งเดิมจะเป็นสีขาว
ขวา : ซุปเปอร์สตีลไมโครแมนอีกรุ่นหนึ่ง (ภาพจาก innerspaceonline.com ) รูปแบบใกล้เคียงกับรุ่นพลาสติกใส ..เท่าที่จำได้รุ่นนี้จะไม่มีบทบาทในการ์ตูนครับ
ต่อมาก็มาดูฝั่งผู้ร้ายกันหน่อย (ภาพจาก microforever.com ครับ ...ของผมสาบสูญไปหมดแล้ว)

ซ้าย : อะคูรอยเยอร์ #1 (ผลิตปี 1975) - ผู้ร้ายตัวแรกสุดที่ออกมาแผลงฤิทธิ์ในเรื่อง - ตัวของเล่นจะขยับได้น้อยกว่าตัวไมโครแมนอยู่บ้าง แต่จะมีอุปกรณ์เสริมมาให้แปลงร่างเป็นรถสามล้อติดที่ยิงจรวดได้
กลาง : อะคูรอยเยอร์ #2 (ผลิตปี 1975) - ผู้ร้ายตัวต่อมา - จะมีมีดสั้นกับชุดแพนหางมาให้ เอาไว้แปลงเป็นยานบิน
ขวา : ไคเซอร์อะคูรอยเยอร์ (ผลิตปี 1976) - หัวหน้าใหญ่ของอะคูรอยเยอร์สองตัวแรก -ของแถมเป็นรถเอาไว้เก็บตัวไคเซอร์ไว้ด้านใน
จากที่เห็นในภาพ ถึงแม้ทาง บ.Takara ได้ผลิตพวกอะคูรอยเยอร์มาแบบละหลายสี แต่ในการ์ตูนชุดดั้งเดิมกลับให้มีผู้ร้ายอยู่แบบละตัวเท่านั้น โดยไม่ได้พูดถึงสีที่เปลี่ยนไปแต่ประการใด
เนื่องจากของเล่นไมโครแมนนั้นการ "ออกแบบของเล่นไว้ก่อนแล้วค่อยสร้างเนื้อเรื่อง" รุ่นแรกๆของญี่ปุ่น และถือได้ว่าเป็นวางกลยุทธฟื้นฐานให้กับวงการของเล่นมาจนถึงปัจจุบัน
เราลองมาดูกันสักหน่อยไหมครับว่ากลยุทธที่ว่าน่ะ มีอะไรบ้าง - แล้วจริงหรือเปล่าที่กลยุทธเดิมๆที่ใช้มากว่าเกือบสามสิบปียังคงใช้ได้ผลจนถึงปัจจุบัน
#1 : ออกแบบของเล่นไว้ก่อนแล้วค่อยสร้างเนื้อเรื่อง - วิธีนี้จะทำให้ของเล่นที่ออกสู่ตลาดออกได้รวดเร็วพร้อมๆกันกับที่มีการ์ตูนวางจำหน่าย
ไม่เหมือนกับที่ไปซื้อลิขสิทธ์ตัวการ์ตูนที่กำลังดังมาผลิตเป็นของเล่น ซึ่งกว่าจะผลิตแล้วนำออกจำหน่ายได้นั้น ตัวการ์ตูนนั้นๆก็อาจจบไปแล้ว
ความนิยมก็น้อยลง ขายของก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้
#2 : มีพระเอกหลายตัวก็ขายของเล่นได้หลายชิ้น - คอนเซปต์เดียวกันกับขบวนการห้าสีทั้งหลายครับคือพระเอกจะมาเป็นทีม
แต่ละคนจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันแตกต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น - เวลานำมาทำของเล่นก็ใช้บลอคเดียวกัน
เป็นหลัก เปลี่ยนแต่สีและชิ้นส่วนเล็กน้อยๆเพื่อให้กลายเป็นตัวอื่นๆ เพิ่มต้นทุนนิดเดียวแต่ขายของดีขึ้นอีกหลายเท่า
หมายเหตุ : แต่ดูจากปีที่ไมโครแมนเริ่มวางตลาดคือปี 1974 - ในขณะที่เซนไทขบวนการแรก "Go Ranger" ออกอากาศในปี 1975 ห่างกันหนึ่งปี
ดังนั้นจะว่าไปแล้วไมโครแมนนี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดขบวนการห้าสีก็ว่าได้ครับ
#3 : มีการเปลี่ยนร่างเพิ่มพลัง ก็ทำของเล่นขายได้มากแบบขึ้น - ก็ไมโครแมนแจ็คในร่างไซบอร์คนั่นแหละครับ พระเอกแปลงร่างไปคนก็อยากเก็บให้ครบแบบอยู่แล้ว
.. อ่านไปสามข้อแล้ว ลองนึกถึงของเล่นที่กระหน่ำทำออกมาขายกันในยุคนี้สิครับ มีกลยุทธไหนแปลกใหม่ไปกว่าสามข้อนี้หรือเปล่า - [ยังมีต่อ ..]
|