หุ่นเหล็ก SOC แห่งปี 2003 - ออกมาสร้างกระแสตั้งแต่ต้นปี ด้วยความที่ของลอตแรกทำออกมาน้อย แถมลังนึงบรรจุมาแค่สี่กล่อง ก็เลยขาดตลาดกันทั่วภูมิภาค
ตอนแรกเห็นเขาเก็งราคาว่าไม่หนี 6500-6700 แต่ปรากฏว่าขายดีร้านค้าเลยโป้วกันไปขายต่อเป็นทอดๆ ราคาก็เลยพุ่งไปอยู่ที่ 7500 เท่ากันไม่ว่าร้านเล็กร้านใหญ่
ถือเป็นปรากฎการ์ณเลยก็ว่าได้ เอาไว้ของลอตหลังๆเข้าก่อนเถอะ ...ฮึ่ม
มาดูของเล่นกันดีกว่า นู๋ดันตัวนี้กล่องใหญ่พอสมควรครับ แต่ไม่หนักอย่างที่คิด เปิดกล่องมาก็เจอกับหุ่นทั้งสี่ตัวนอนยิ้มเผล่อยู่ในกล่อง พร้อมกับมีคู่มือมาให้อีกสองเล่ม เล่มแรกก็จะเป็นคู่มือการแปลงร่าง
ของหุ่นแต่ละตัว แล้วก็วิธีการประกอบร่างเป็นดันคูก้า ส่วนอีกเล่มก็เป็นคล้ายๆโบชัวร์มีที่มาที่ไป และก็รูปแสดงคุณสมบัติต่างๆของเจ้าหนูดันคูก้าตัวนี้
แล้วต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับที่งวดนี้ไม่มีภาพถ่ายจากตัวจริงให้ดู เนื่องจากขนาดของนู๋ดัน นี่อลังการโขอยู่ ไม่สามารถแบกไปโพสต์ท่าถ่ายรูปได้ครับ ได้แต่เอาคู่มือไปสแกนแล้วก็หาภาพเพิ่มเติมจากในเวบต่างๆนะครับ
ภาพจากคู่มือการแปลงร่างเป็นแบบต่างๆ - คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพใหญ่
ภาพเปรียบเทียบขนาด Beast machine ทั้งสี่ในรูปแบบต่างๆ - คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพใหญ่
เนื่องจากนู๋ดันนี่เป็นหุ่นประกอบร่างจากบีสต์แมชชีนสี่ตัว... คราวนี้เวลารีวิวก็ต้องยาวหน่อย เนื่องจากต้องรีวิวหุ่นห้าตัว ( 4 บีสต์แมชชีน + นู๋ดัน )ในเวลาเดียวกันครับ
เริ่มต้นด้วยหุ่นแลนด์ไลก้า(สิงห์โต) และ แลนด์คูก้า(เสือ) ก่อนเลยแล้วกันครับ หุ่นทั้งสองตัวนี่จะเป็นส่วนเท้า
ของดังคูก้า เนื่องด้วยคุณสมบัติ และรูปลักษณ์ของเจ้าสองตัวนี้คล้ายกันมากก็ขอพูดรวมๆเลยแล้วกัน
เจ้าสองตัวนี้สามารถแปลงร่างได้สามแบบคือ รูปแบบมนุษย์(Humanoid mode), รูปแบบสัตว์(Beast mode)
และสุดท้ายเป็นรถถัง(Tank mode) ส่วนสูงของหุ่นสองตัวนี้เวลาอยู่ในรูปแบบมนุษย์จะสูงราวๆห้านิ้ว เล็กกว่า
SOC โดยทั่วไปอยู่เล็กน้อย แต่ก็จัดว่าขนาดกำลังเหมาะมือไม่เล็กจนเกินไป ชิ้นส่วนต่างๆของทั้งสองตัวนี้จะ
หนักไปทางพลาสติก มีโลหะอยู่แค่ตรงลำตัว,ต้นขา และกรงเล็บทั้งสี่ข้างเท่านั้นเอง
การแปลงกายของทั้งคู่ไปเป็นรูปแบบต่างๆนั้นลงตัวดี ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องดูคู่มือก็แปลงร่างเล่นเองได้ เท่าที่ดู
เจ้าสองตัวนี้จะดูดีและลงตัวที่สุดก็ตอนที่อยู่ในรูบแบบรถถัง และแบบสัตว์ ส่วนตอนที่อยู่ในรูปแบบมนุษย์นั้น
ลำตัวดูจะแบนและกว้างไปหน่อย แขนขาจะผิดส่วนไปนิด แต่ก็ยังดูดีพอสมควรครับ
จุดขยับตามส่วนต่างๆก็ครบขยับได้แทบทุกจุด จับโพสต์ท่าเล่นได้หนุกหนาน ในเรื่องลูกเล่นนั้น สำหรับตัว
แลนด์คูก้าจะไม่มีอย่างอื่นนอกจากการแปลงร่าง แต่ตัวแลนด์ไลก้าจะมีเพิ่มเติมตรงแผงคอพับได้ และปืนที่
ไหล่ทั้งสองข้าง ส่วนเรื่องอุปกรณ์เสริมก็มีปืนยาว (Blaster gun) ให้ตัวละกระบอกครับ
จุดที่น่าปรับปรุงก็อยู่ที่ล้อตอนที่แปลงเป็นรถถัง ล้อของทั้งสองตัวนี้เป็นล้อหลอกๆหมุนไม่ได้ ถ้าหมุนได้ไถเล่นได้
จะแจ่มมากครับ..ขอบอก
ตัวถัดมาอีเกิลไฟต์เตอร์(นกอินทรี) ตัวเล็กนิดเดียวครับ ตอนอยู่ในรูปแบบมนุษย์จะสูงแค่สามนิ้วเอง หยิบขึ้นมา
เล่นครั้งแรกก็หวาดๆอยู่ว่าจะหักคามือ แต่เมื่อลองเล่นดูแล้วก็รู้สึกว่าทนทานกว่าที่คิดไว้ แต่ก็อย่าไปทำอะไร
รุนแรงนักนะครับ เดิ๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ตัวนี้แปลงร่างได้สามแบบเหมือนกันครับ คือรูปแบบนก-หรือจะมอง
เป็นเครื่องบินก็ได้, แปลงเป็นรูปแบบมนุษย์ และแปลงเป็นส่วนหัวของดันคูก้าร์ ชิ้นส่วนของตัวนี้ก็เป็นพลาสติก
แทบทั้งตัวยกเว้นส่วนลำตัวกับเท้าเท่านั้นที่เป็นเนื้อโลหะ ส่วนอุปกรณ์เสริมที่ให้มาก็เป็นปืนยาว (Beam gun)
ขนาดประมาณไม้จิ้มฟัน กับฐานสำหรับวางอีเกิลไฟต์เตอร์ในรูปแบบยานบินครับ
ตัวนี้ถึงแม้จะขนาดเล็ก(มาก) แต่จุดขยับต่างๆก็ไห้มาพอสมควร จุดหลักๆทีหัวไหล่, ข้อศอก, ต้นขา, หัวเข่า ขยับ
ได้หมด การแปลงร่างก็เนียนดีมีขลุกขลักเล็กน้อยตอนที่จะพับขาให้ล็อคลงสลักที่ลำตัวให้พอดีเท่านั้น
บิคมอธ(ช้างแมมมอท) ร่างหลักของดังคูการ์ครับตัวนี้ ส่วนสูงตอนอยู่ในรูปแบบมนุษย์ก็ราวๆเก้านิ้ว ประกอบจาก
ชิ้นส่วนพลาสติกเป็นหลัก จะมีโลหะก็ที่หัวไหล่ กับน่องเท่านั้นเอง ตัวบิคมอธนี้แปลงร่างได้สามแบบคือ รูปแบบ
มนุษย์, รูปแบบช้าง และรถถัง ได้เช่นเดียวกับแลนด์ไลก้าและแลนด์คูก้า สัดส่วนของบิคมอธในรูปแบบมนุษย์
และรถถังนั้นดูลงตัวดี แต่ร่างในรูปแบบช้างจะดูเก้งก้างไปสักหน่อย
จุดขยับต่างๆโดยเฉพาะส่วนแขนนั้นมีมาให้เพียบขยับโพสต์ท่าได้สุดๆ ข้อต่อส่วนใหญ่ยังเป็นแบบ สเตป-ล็อค
อีกตะหาก ไม่หลุดไม่หลวมง่ายๆ ส่วนรูปแบบการแปลงร่างนั้นก็คล้ายๆกันกับแลนด์ไลก้าและแลนด์คูก้า แต่จะ
ซับซ้อนและขลุกขลักกว่าตรงการพับบริเวณสะโพกที่ต้องเล็งจังหวะดีๆและใช้แรงพอสมควร
นอกจากนั้นก็เห็นจะเป็นการพับหูช้างที่หน้าอกนี้แหละครับ - ตอนที่อยู่ในรูปแบบมนุษย์ เจ้าบิคมอธนี้จะมีหูช้าง
ใบใหญ่มาเสริมเป็นเกราะที่หน้าอก แต่ตอนที่แปลงเป็นแบบอื่นนั้น จะต้องเก็บเจ้าหูช้างใบใหญ่ซ่อนไว้ในลำตัว
แล้วงัดใบเล็กที่พับแอบไว้ข้างๆหัวช้างออกมากางแทน - ไอ้ตอนเก็บหูใบใหญ่นี่แหละครับ ถ้าไม่บรรจงเก็บอย่าง
ระมัดระวัง หูทั้งสองข้างอาจสีกันทำให้สีถลอกได้ .. ระวังไว้หน่อยแล้วกันครับ
อีกจุดหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะเป็นกันทุกตัวหรือเปล่า ( หรือเป็นแค่ของผมตัวเดียวก็ไม่รู้ ) ก็ที่มือของนู๋ดัน ตอนแปลงเป็น
รูปแบบมนุษย์ ตานี้เราต้องดึงมือออกมาจากที่เก็บในท่อนแขน แต่ว่าบอลจอยน์ที่ข้อมือไม่ค่อยแข็งแรงครับ ถ้าดึง
แรงไปมือก็จะหลุดออกมาเลย เวลาหลุดแล้วจะใส่กลับเข้าไปมันก็จะถูกดันเข้าไปเก็บไว้ในแขนอีก..เฮ้อ!
ดังนั้นเวลาจะดึงมือออกมาจากท่อนแขนก็ต้องค่อยๆดึง แล้วก็ต้องกะแรงให้ดีๆเหมือนกัน นอกจากเรื่องขลุกขลัก
ที่ว่ามาแล้วส่วนอื่นๆก็ถือว่าออกแบบได้ยอดเยี่ยมครับ
ลูกเล่นอื่นๆที่นอกเหนือจากการแปลงร่างแล้ว ก็จะมีล้อสายพานตีนตะขาบที่หมุนได้จริง แล้วก็ปืนใหญ่ติดหลัง
Dankuhou ที่ติดอยู่ด้านหลังทั้งสามกระบอก ที่สามารถหมุนปรับทิศทางได้รอบตัว ส่วนอุปกรณ์เสริมก็ไม่พ้น
ปืนยาว (beam launcher) อีกนั่นแหละครับ อ้อ! เกือบลืม อีกจุดที่ควรระวังอีกจุดคือตัวล็อคที่จะยึดปลายขา
กับปลายแขนให้ต่อกันตอนที่อยู่ในรูปแบบรถถัง เท่าที่เห็นก็เป็นแค่ตัวล็อคแบบบานพับชิ้นเล็กๆท่าทางไม่ค่อย
แข็งแรงสักเท่าไหร่ ระวังไว้หน่อยก็ดีครับ
มาถึงขั้นตอนการประกอบร่างบีสต์แมชชีนทั้งสี่เป็นสุดยอดหุ่นดันคูการ์กันสักทีครับ การประกอบร่างก็ไม่ยาก
แค่นำเอาแลนด์ไลก้า และแลนด์คูก้าที่อยู่ในรูปแบบรถถังมาต่อเข้ากับขาของบิคมอธที่อยู่ในรูปแบบมนุษย์
สำหรับส่วนหัวก็กดหัวของบิคมอธลงไปเก็บอยู่ใต้คอ แล้วนำเอาส่วนหัวที่แปลงมาจากยานอีเกิลไฟเตอร์มาสวม
ทับลงไปเป็นอันเสร็จ - ดูๆไปก็เหมือนกับเอา บิคมอธ มาใส่หมวกใส่รองเท้าเพิ่มเข้าไปนะ..ว่ามั้ย?
ข้อต่อส่วนเท้าทำออกมาได้ดีมากครับ สามารถเหยียดเท้า และโยกเท้าทางด้านข้างได้ทำให้ส่วนเท้าวางแนว
ระนาบกับพื้นได้ตลอด แต่ข้อต่อส่วนหัวนี่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เนื่องจากต้องขยับโยกอยู่หลายรอบถึงจะ
ประกอบกันได้ แถมเมื่อประกอบเสร็จแล้วยังขยับส่วนคอไม่ได้เลยอีกตะหาก แต่ในจุดนี้ทางบันไดก็ได้ทำชิ้น
ส่วนคอแบบขยับได้เสริมมาให้ แต่วิธีนี้ต้องถอดแขนของอีเกิลไฟต์เตอร์ออก แล้วสวมชิ้นนี้เข้าไปแทน แล้วก็
ประกอบส่วนแขนที่ถอดออกมากลับเข้าไว้ที่แกนนี้แทน -ดูภาพประกอบ- เมื่อใช้วิธีนี้แล้วคอของนู๋ดันก็จะขยับ
ได้รอบทิศทาง แต่ก็ควรระวังแขนของอีเกิลไฟต์เตอร์จะหลุดหายเนื่องจากช่องที่ให้เสียบแขนกลับเข้าไปนั้นไม่
แน่นหนาเอาเสียเลยครับ
อุปกรณ์เสริมที่จะใช้งานกับนู๋ดันนี่มีมาเพียบ อย่างแรกก็ปืน Daigun ที่นำเอาปืนของบีสต์แมชชีนทั้งสี่กระบอก
มาประกอบรวมกัน, ดาบอันโต Dankuken ที่ยาวร่วมสิบนิ้วพอๆกับส่วนสูงของนู๋ดันเลยครับ นอกจากนั้นก็ยังมี
Booster ปีกช่วยในการบินที่วัดระยะจากปลายปีกทั้งสองข้างแบบกางสุดๆแล้วจะได้ถึงสิบสี่นี้วเลยทีเดียว อ้อ!
แล้วบรรดาอุปกรณ์เสริมนี่เป็นพลาสติกล้วนๆเลยครับ
จุดเด่นของนู๋ดันนี่น่าจะอยู่ที่การแปลงร่างเป็นรูปแบบต่างๆของยานแต่ละลำ, ขนาดของตัวหุ่นที่ประกอบร่างแล้ว
จะสูงถึงสิบนิ้ว, ความมั่นคงของตัวหุ่นที่ถึงแม้จะประกบ Booster ที่มีน้ำหนักพอสมควรเข้าไปแล้วก็ไม่ออก
อาการเสียสมดุลย์ให้เห็นแต่ประการใด อันนี้ก็ต้องให้เครดิตกับการออกแบบที่เอาชิ้นส่วนโลหะมาไว้ที่ส่วนขา
และเท้า และร่างกายท่อนบนแทบจะเป็นพลาสติกล้วนๆ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ และท้ายสุด ก็คงจะเป็นจุดขยับ
ต่างๆโดนเฉพาะที่แขนที่มีขอบเขตการเคลื่อนไหวที่กว้างมาก โพสต์ท่าทางต่างๆได้สุดๆ ...ส่วนการประกอบร่าง
ของหุ่นผมดูแล้วเฉยๆไม่ค่อยประทับใจก็มันเหมือนกับเอา บิคมอธ มาใส่หมวกใส่รองเท้าเพิ่มเข้าไปแค่นั้นเอง ..
และที่น่าผิดหวังเล็กๆก็เรื่องวัสดุที่เป็นพลาสติกซะ80% ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะมีให้เห็นน้อยมาก (หรือจะเป็นแค่จิต
วิญญาญของหุ่นโลหะ - แบบว่าโลหะมาแต่วิญญาญ - ตามชื่อชุด Soul Of Chogokin จริงๆ)
ท้ายสุด..เล่นสนุกไหมตัวนี้? ถ้าความสนุกของคุณเป็นการจับมันมาแปลงร่างประกอบร่าง จับมันมาโพสต์ท่าทาง
ต่างๆ จับมันมาต่อสู้กับตัวอื่นๆ ( อันหลังนี้คงไม่ค่อยมีใครเล่นมั้งครับ ตัวตั้งเกือบหมื่น) ถ้าการเล่นสนุกของคุณ
เป็นอย่างที่ว่ามา เจ้านู๋ดันนี่ก็เล่นได้สนุกมากครับ ขอบอก
|